วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประเพณีตักบาตรดอกไม้

ประเพณีตักบาตรดอกไม้

 

ความสำคัญ

เจตนาเดิมของชาวบ้านที่ทำประเพณีนี้เพราะต้องการให้พระที่กำลังเดินขึ้นไปที่พระอุโบสถ เพื่ออธิษฐานเข้าพรรษาได้มีดอกไม้บูชาพระ ชาวบ้านเองก็พลอยเป็นผู้ได้บุญไปด้วย แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็นพิธีการใหญ่ มีประชาชนจากท้องถิ่นอื่นมาร่วมงาน ขบวนรถแต่ละอำเภอตกแต่งสวยงาม บางครั้งก็มีการโฆษณากิจกรรมของท้องถิ่นตนไปด้วย เป็นงานที่รวมคน รวมความคิด รวมฝีมือ และรวมศรัทธา

พิธีกรรม

ที่จริงการนำดอกไม้ถวายพระหรือบูชาพระจะทำเมื่อใดก็ได้ แต่ที่ชาวพระพุทธบาทปฏิบัติกันเป็นพิเศษในวันเข้าพรรษา คือ เมื่อถึงฤดูฝนจะมีดอกไม้ชนิดหนึ่งขึ้นตามเชิงเขา ดอกชนิดนี้มีลักษณะคล้ายต้นกระชายหรือต้นขมิ้น สูงประมาณ ๑ คืบเศษ บางต้นก็มีดอกสีเหลือง บางต้นก็มีดอกสีขาว บางต้นก็มีดอกสีม่วง ดอกชนิดนี้จะขึ้นเฉพาะหน้าฝนเข้าพรรษาเท่านั้น ชาวบ้านจะเก็บดอกชนิดนี้มาถวายพระ และเรียกดอกนี้ว่า ดอกเข้าพรรษา
ปัจจุบันหน่วยงานของรัฐมีความประสงค์จะทำให้งานนี้เป็นประเพณีเอกลักษณ์ของชาวสระบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย จึงให้แต่ละอำเภอจัดตกแต่งรถมาร่วมพิธีนี้ และมีประชาชนจากอำเภอต่างๆ มาร่วมเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงวันเข้าพรรษาเวลาบ่าย (เวลาแน่นอนตามแต่จะกำหนด) ขบวนรถต่างๆ จะเริ่มจากหน้าที่ว่าการอำเภอพระพุทธบาท เคลื่อนขบวนเข้าสู่ถนนสายคู่เพื่อเดินทางมายังมณฑป สองฟากถนนจะมีประชาชนนำดอกไม้พรรษามาคอยใส่บาตรพระและชมขบวนรถด้วย หมดขบวนรถจะมีภิกษุ-สามเณรเดินรับดอกไม้ที่ประชาชนนำมาใส่บาตร เมื่อรับหมดภิกษุ-สามเณรก็เดินขึ้นสู่พระอุโบสถทำพิธีกรรมของสงฆ์อธิษฐานเข้าพรรษา ประชาชนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

สาระ

ประเพณีนี้ตามเจตนาเดิมของชาวบ้านก็คือ ได้บุญจากการได้ถวายดอกไม้แด่ภิกษุ-สามเณร และโยงเรื่องนี้ไปถึงแบบอย่างครั้งพุทธกาล ที่เล่าว่านายมาลาการมีหน้าที่เก็บดอกมะลิวันละ ๘ กำมือไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์กรุงราชคฤห์ วันหนึ่งขณะที่นายมาลาการกำลังเก็บดอกมะลิอยู่นั้นได้เห็นพระพุทธเจ้าพร้อมภิกษุจำนวนหนึ่ง นายมาลาการเกิดความเลื่อมใสอย่างมากจึงนำดอกมะลิไปถวายพระพุทธเจ้า โดยมิได้เกรงพระราชอาญาจากพระเจ้าพิมพิสารที่ตนไม่มีดอกมะลิไปถวายวันนั้น เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบก็มิได้ลงพระอาญาแก่นายมาลาการแต่อย่างใด กลับทรงพอพระทัยในการกระทำของนายมาลาการ ได้พระราชทานรางวัลแก่นายมาลาการเป็นจำนวนมาก นายมาลาการก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เดิมประชาชนประกอบพิธีกรรมนี้ก็เพื่อรับบุญ หวังผลบุญที่ตนจะได้รับ
ขอขอบคุณจากเว็บhttp://www.prapayneethai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นารูโต๊ะ

สำหรับความหมายอื่น ดูที่ นารูโตะ
อุซึมากิ นารูโตะ
อุซึมากิ นารูโตะ จากการ์ตูนเรื่องนินจาคาถาโอ้โหเฮะ
ชื่อภาษาญี่ปุ่นうずまき ナルト
โรมะจิUzumaki Naruto
ปรากฏตัวตอนแรกเล่ม 1 ตอนที่ 1
สังกัดหมู่บ้านโคโนฮะ
อาจารย์อูมิโนะ อิรุกะ
ฮาตาเกะ คาคาชิ
เอบิซุ
จิไรยะ
ยามาโตะ
วันเกิด10 ตุลาคม
กรุ๊ปเลือดB
หมวดหมู่ นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

อุซึมากิ นารูโตะ (ญี่ปุ่น: うずまき ナルト; อังกฤษ: Uzumaki Naruto) เป็นตัวละครการ์ตูนจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ มีบทบาทเป็นตัวเอกของเรื่อง ซึ่งชื่อนารูโตะนี้ ก็ได้นำมาเป็นชื่อของการ์ตูนอีกด้วย (ในภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ) นารูโตะเป็นนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ ถูกชาวบ้านเกลียดชังเนื่องจากมีจิ้งจอกเก้าหางผนึกอยู่ในตัวของเขา ซึ่งในอดีตจิ้งจอกเก้าหางเคยเข้ามาโจมตีหมู่บ้านมาก่อน นารูโตะมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นผู้นำหมู่บ้าน หรือที่เรียกว่าโฮคาเงะ

ครอบครัว[แก้]

ชื่อของตัวละคร[แก้]

นารูโตะ มีความหมายได้สองอย่างคือ น้ำวน หรือ คะมะโบะโกะ (ลูกชิ้นปลาชนิดหนึ่งที่มีสีขาวและชมพูโดยมีลวดลายเป็นวงตรงกลาง) นิยมใส่ในราเม็ง ซึ่งเป็นอาหารโปรดของนารูโตะ ที่มาของชื่อนารูโตะและนารูโตะอายุ12ปีได้มาจากการที่พ่อของนารูโตะ (มินาโตะหรือท่านรุ่นที่ 4) ได้อ่านนิยายของจิไรยะ (เซียนลามก) ซึ่งนิยายในเรื่องมีตัวละครเอกที่มีความกล้าหาญอดทนที่ชื่อนารูโตะ ดังนั้นพ่อของนารูโตะจึงได้ตั้งชื่อลูกตนเองตามตัวละครนั่นเอง ซึ่งจิไรยะเองก็ได้ชื่อ "นารูโตะ" ในนิยายมาจากการกินราเมง[ต้องการอ้างอิง]

ประวัติ[แก้]

อาจารย์ : อิรุกะ,คาคาชิ,จิไรยะ บิดา : นามิคาเสะ มินาโตะ
มารดา : อุซึมากิ คุชึนะ นารูโตะอายุ  : 17 ปี(ปัจจุบัน) นารูโตะเกิดมา คนในหมู่บ้านรังเกียจและชิงชังตั้งแต่เด็ก แม่ของเขาคือพลังสถิตย์ร่างเก้าหางคนที่ 2 อุซึมากิ คุชินะ คุโนอิจิ แห่งแคว้นอุซึชิโอะ (แคว้นสายน้ำวน-แคว้นนี้เก่งวิชาผนึกมาก) ถูกส่งมาอยู่ที่โคโนฮะตั้งแต่เด็ก ตระกูล อุซึมากิ มีความสัมพันธ์ เป็นญาติห่างๆของตระกูล เซ็นจู ฮาชิราม่า เซ็นจู (โฮคาเงะรุ่นที่ 1) โดย อุซึมากิ มิโตะ (พลังสถิตย์ร่างเก้าหางคนแรก แต่งงานกับ โฮคาเงะรุ่นที่ 1) พ่อของเขาคือ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 หรือ นามิคาเสะ มินาโตะ ซึ่งเป็นผู้เสียสละชีวิตตัวเองต่อสู้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและผนึกจิ้งจอกเก้าหางลงไปในตัวนารูโตะ จึงสามารถฝึกวิชาของรุ่นที่ 4 ได้ง่ายกว่าใครๆอย่างกระสุนวงจักระและรวมทั้งวิชาพื้นฐานด้วย เนื่องจากนารูโตะได้รับอิทธิพลมาจาก จิ้งจอกเก้าหางโดยตรงทำให้นารูโตะมีจักระที่เยอะมากกว่าคนอื่นในระดับเดียวกัน นารูโตะเติบโตมากับความโดดเดี่ยวที่ไม่มีพ่อและแม่ และมากกว่านั้นนารูโตะโดนนินจาและผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนอื่นเกลียดชัง เนื่องจากในตัวนารูโตะนั้นมีจิ้งจอกเก้าหาง จึงทำให้คน, นินจาในหมู่บ้านเกลียดนารูโตะเพราะคิดว่านารูโตะเป็นปีศาจ อูมิโนะ อิรุกะ อาจารย์คนแรกของนารูโตะเป็นคนที่ให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่นารูโตะเหมือนน้องชายตัวเอง
อิรุกะเข้าใจความรู้สึกของนารูโตะเนื่องจากมีชีวิตในวัยเด็กเหมือนกัน ที่สูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และจิ้งจอกเก้าหางที่ผนึกอยู่ในร่างของนารูโตะนั้นฆ่าพ่อแม่ของอิรุกะอีกด้วย 12 ปีต่อมานารูโตะตัวแสบของหมู่บ้านโคโนฮะเข้าสอบเพื่อเลื่อนเป็นเกะนินแต่ไม่สำเร็จ และได้ถูกมิซึกิหลอกให้ไปเอาคัมภีร์ที่รวบรวมวิชานินจามาให้ เพื่อตนเองจะได้เอาไปและให้นารูโตะเป็นแพะรับบาป แต่อิรุกะได้มาช่วยนารูโตะไว้ มิซึกิได้บอกว่าในตัวนารูโตะมีตัวจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว และได้ฆ่าพ่อแม่ของอิรุกะ นารูโตะได้เรียนวิชานินจากับซาซึเกะ,ซากุระ และครูคาคาชิซึ่งร่วมมือกันในภารกิจต่างๆในหน่วย 7 โดยเฉพาะภารกิจที่ช่วยคุ้มครองการสร้างสะพาน ในภาคสอง นารูโตะและซากุระไปช่วยกาอาระ{คาเซคาเงะ}ที่โดนกลุ่มแสงอุษาลักพาตัว

ปัจจุบัน นารูโตะมีพลังหยาง ได้รับจากเซียนหกวิถี และร่วมมือกับ ซาสึเกะ ซึ่งได้พลังหยิน ผนึก คางูยะ แม่ของเซียนหกวิถี สำเร็จ และได้ต่อสู้อีกครั้งกับซาสึเกะที่หุบผาสิ้นสุด เพื่อหยุดยั้งแผนปฏิวัติของเขา จนทั้งคู่มือขาด และซากุระได้รักษาทั้งสอง และให้ซึนาเดะรักษาต่อโดยใช้การปลูกถ่ายเซลล์ของฮาชิรามะเพื่อทำมือเทียมให้
ในตอนจบนารูโตะได้แต่งงานกับฮิวงะ ฮินาตะ และมีลูก 2 คนคือ อูซึมากิ โบรูโตะ ซึ่งเป็นพี่ชาย และ อูซึมากิ ฮิมาวาริ น้องสาว นารูโตะ ได้เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 7 ต่อจาก ฮาตาเกะ คาคาชิ

จักระจิ้งจอกเก้าหางโดยย่อ[แก้]

จักระจิ้งจอกเก้าหางเป็นจักระสีแดงด้านชั่วร้ายของนารูโตะที่อยู่ในตัวมีพลังมหาศาลถูกใช้ครั้งแรกตอนสู้กับฮาคุทีแคว้นฮาโนะคุนิและครั้งที่สองตอนสู้กับโอโรจิมารุในป่ามรณะตอนสอบจูนินรอบสองแต่ก็ถูกโอโรจิมารุปิดผนึกเอาไว้แต่พอหลังสอบจูนินจิไรยะก็คล้ายสะกดนั้นให้และเป็นอีกครั้งที่ใช้ จักระจิ้งจอกเก้าหางตอนที่นารูโตะกำลังอยู่ในสถานะอันตราย ซึ่งจักระจิ้งจอกเก้าหางมีมากมายมหาศาลที่สุดในบรรดาทั้งเก้าหาง เวลาที่นารูโตะใช้นั้นจะมีจักระสีแดงออกมาจากร่างกายอย่างมากซึ่งยิ่งเอาออกมาใช้มากเท่ากับว่าจะปลดปล่อยจิ้งจอกเก้าหางออกมาและทำให้ผู้ที่ถูกผนึกกลายเป็นจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งสามารถทราบได้ว่าคือหางที่ปลดปล่อยออกมา
ก่อนปลดปล่อยหางออกมามีพลังมากซึ่งนารูโตะมักจะใช้เท่านี้ 1 หาง ตอนปะทะกับซาสึเกะในร่างอักขระสำหรับนารูโตะยังพอควบคุม 2-4 หาง ในช่วงสองนารูโตะเริ่มกลายสภาพและเป็นร่างสามและสี่หางทำให้สูญเสียการควบคุมทุกด้านพลังทำร้ายมหาศาลอย่างมาก ในตอนที่ปะทะกับเพน ได้เปลื่ยนร่างจนกลายเป็น 6 หางเพราะ ฮินาตะเข้าไปช่วยและโดนแทงต่อหน้าต่อตา ร่าง 6 หางนั้น จะคล้ายๆ 4 หาง แต่จะมีโครงกระดูกเพิ่มเข้ามา มีพลังมหาศาลมาก ร่าง 8 หาง จะมีกล้ามเนื้อ 9 หางจะสมบูรณ์และเท่ในแบบของนารูโตะด้วย แต่ร่างสูงสุด คือ เก้าหาง 3 หัว 6 แขน จะทรงพลังที่สุด

การปรากฏตัวในสื่ออื่น[แก้]

อุซึมากิ นารูโตะ ยังได้ปรากฏตัวในเกมต่อสู้ข้ามฝั่ง ซึ่งนารูโตะได้เผชิญกับตัวละครจากมังงะเรื่องอื่น เกมเหล่านี้ประกอบด้วย แบทเทิลสเตเดียม ดี. โอ. เอ็น., จัมพ์ซูเปอร์สตาร์ส และจัมพ์อุลติเมทสตาร์ส[1][2][3]
นอกจากนี้ ยังมีตัวละคร "ซูโมมากิ รารูโตะ" ในเว็บคอมิกของสเปนเรื่อง รารูโตะ ที่ล้อเลียนนารูโตะอีกด้วย[4]

การตอบรับ[แก้]

ในทุกการสำรวจความนิยมของ โชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ได้จัดอันดับให้นารูโตะอยู่ในระดับท็อปไฟว์ และในช่วงต้น ค.ศ. 2012 ได้อยู่ในอันดับหนึ่งเป็นครั้งที่สอง[5][6] ใน ค.ศ. 2006 นารูโตะสูญเสียสถานะท็อปทูให้แก่เดอิดาระ, คาคาชิ และซาสึเกะจากผลสำรวจของนิตยสารครั้งที่หก[7] ในโพลปี ค.ศ. 2011 นารูโตะได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่หนึ่งอีกครั้ง[8] และมีสินค้าที่สร้างขึ้นจากนารูโตะ ได้แก่ พวงกุญแจ[9] และแอ็คชั่นฟิกเกอร์[10]